เทศกาลกินเจ 2567 เริ่มวันไหน ควรเตรียมตัวอย่างไร
เทศกาลกินเจ 2567 เริ่มวันไหน ควรเตรียมตัวอย่างไร
เทศกาลกินเจปี 2567 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-11 ตุลาคม รวมทั้งหมด 9 วันค่ะ แต่สำหรับบางท่านอาจจะเริ่มล้างท้องในมื้อเย็นของวันที่ 2 ตุลาคม ทำให้รวมเวลาการถือศีลกินเจทั้งหมดเป็น 10 วันได้เช่นกันค่ะ
เรามาทำความเข้าใจกันค่ะว่า การกินเจนั้นมีความหมายอย่างไร คำว่า "เจ" หมายถึงอะไร และทำไมเราถึงควรถือศีลกินเจ กินเจแล้วจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง? ในช่วงเทศกาลกินเจ มีข้อห้ามอะไรบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยง และมีอาหารอะไรที่เราสามารถรับประทานได้บ้าง มาหาคำตอบพร้อมกันค่ะ!
เทศกาลกินเจ 2567 เริ่มตั้งแต่วันที่เท่าไหร่
เทศกาลกินเจปี 2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม ถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2567 รวมทั้งหมด 9 วัน 9 คืนค่ะ ช่วงเทศกาลกินเจของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน ซึ่งจะตรงกับเดือน 11 หรือเดือนตุลาคมของไทยตามปฏิทินสากล ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการถือศีลและปฏิบัติธรรมเพื่อสร้างบุญและความบริสุทธิ์ให้กับร่างกายและจิตใจค่ะ
แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมตัวก่อน บางท่านอาจจะเริ่มล้างท้องในมื้อเย็นของวันที่ 2 ตุลาคม ทำให้การถือศีลกินเจรวมเป็น 10 วันก็ได้เช่นกันค่ะ การล้างท้องก่อนเริ่มเทศกาลช่วยให้ร่างกายปรับตัวและพร้อมรับการปฏิบัติธรรมและการทานอาหารเจได้อย่างเต็มที่ค่ะ
ทำไมต้องล้างท้อง
การล้างท้องก่อนเริ่มเทศกาลกินเจเป็นการเตรียมตัวให้ร่างกายพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางอาหารค่ะ การล้างท้องหมายถึงการเริ่มกินเจก่อนวันเริ่มต้นเทศกาลจริง 1-2 วัน เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับสภาพและทำความคุ้นเคยกับการงดเนื้อสัตว์และอาหารที่มีเครื่องปรุงรสหนักๆ ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ การล้างท้องยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารเริ่มปรับตัวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเข้าสู่การกินเจเต็มรูปแบบ ทำให้การถือศีลกินเจเป็นไปได้อย่างราบรื่นและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปฏิบัตินี้ค่ะ
ความหมายของคำว่า "เจ"
คำว่า "เจ" ในภาษาจีนทางพระพุทธศาสนา หมายถึง "อุโบสถ" หรือการรักษาศีล 8 ซึ่งเป็นการปฏิบัติศีลของพระพุทธศาสนานิกายมหายานค่ะ การรักษาอุโบสถศีลนั้นหมายถึงการงดบริโภคอาหารหลังเที่ยงวันตามหลักศีล 8 ข้อ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตค่ะ
ช่วงหลังจึงมีการใช้คำว่า "กินเจ" เพื่อเรียกคนที่งดบริโภคเนื้อสัตว์ด้วย แต่การกินเจนั้นไม่ได้หมายถึงเพียงแค่งดเนื้อสัตว์หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปฏิบัติตัวตามศีลธรรม รักษาศีล และประพฤติตนเป็นคนดีทั้งกาย วาจา และใจอีกด้วยค่ะ การกินเจจึงเป็นการฝึกฝนทั้งร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์และสงบสุขค่ะ
ประวัติความเป็นมาของเทศกาลกินเจ
เทศกาลกินเจมีจุดเริ่มต้นเมื่อประมาณ 400 ปีมาแล้วค่ะ ตามตำนานกล่าวว่า เริ่มต้นขึ้นในช่วงที่ชาวจีนถูกครอบครองโดยชนชาติแมนจู ซึ่งเข้ามาปกครองประเทศจีนและบังคับให้ชาวจีนยอมรับวัฒนธรรมของตน เช่น การไว้ทรงผมแบบแมนจู ที่โกนศีรษะด้านหน้าและไว้ผมยาวด้านหลัง ซึ่งหลายท่านคงเคยเห็นในภาพยนตร์จีนที่ฉายทางทีวี
ในสมัยนั้น มีชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านชาวแมนจู โดยใช้หลักธรรมทางศาสนาเป็นแรงบันดาลใจ กลุ่มนี้นุ่งขาวห่มขาวและงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง จนสามารถต้านทานการรุกรานของชาวแมนจูได้ กลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "หงี่หั่วท้วง" แม้จะต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของชาวแมนจูได้
ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ชาวจีนที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของชาวแมนจูจึงถือศีลกินเจ เพื่อรำลึกถึงเหล่านักสู้ "หงี่หั่วท้วง" ที่ได้ต่อสู้และสละชีวิตในครั้งนั้น
อีกความเชื่อหนึ่งเกี่ยวกับตำนานการกินเจคือ เป็นการสักการะพระพุทธเจ้าในอดีต 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมทั้งหมดเป็น 9 พระองค์ หรือที่เรียกว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ดังนั้น ในพิธีกรรมนี้ สาธุชนจึงงดเว้นการฆ่าสัตว์และหันมาบำเพ็ญศีล โดยตั้งปณิธานในการกินเจและงดเว้นอาหารคาวเพื่อเป็นการสมาทานศีล
สำหรับประเทศไทย การกินเจเป็นที่นิยมในฐานะการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อสักการะบูชาพระพุทธเจ้าและพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ที่นับถือ "เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจจึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะและแสดงความเคารพต่อเจ้าแม่กวนอิมค่ะ
เตรียมตัวอย่างไรกับเทศกาลกินเจ
ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุน
ในช่วงเทศกาลกินเจ มีข้อห้ามที่ควรปฏิบัติคือการงดบริโภคผักที่มีกลิ่นฉุนหรือมีกลิ่นแรงค่ะ เนื่องจากผักเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายและพลังธาตุถูกทำลายได้ การบริโภคผักที่มีกลิ่นแรงยังอาจกระตุ้นร่างกายให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์หรือการกระตุ้นทางกายภาพ ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการถือศีลกินเจที่เน้นความสงบและการฝึกจิตใจค่ะ
ผักที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ หัวหอม ต้นหอม ใบหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย กระเทียม รวมถึงใบยาสูบ (เช่น บุหรี่ ยาเส้น) นอกจากนี้ยังต้องงดเครื่องดื่มมึนเมา เช่น การสูบบุหรี่และการดื่มเหล้าด้วยในช่วงที่ถือศีลกินเจ เพื่อให้การปฏิบัติตามศีลเจเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และสมบูรณ์ค่ะ
ห้ามกินเนื้อสัตว์
ในช่วงเทศกาลกินเจ มีข้อห้ามที่สำคัญคือการงดบริโภคเนื้อสัตว์และอาหารทุกชนิดที่มีส่วนผสมหรือส่วนประกอบมาจากสัตว์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์โดยตรง ไขมันสัตว์ ไข่ เลือด หรือส่วนใดส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ทั้งหมด เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์และรักษาความบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ การงดบริโภคเนื้อสัตว์และอาหารที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ทั้งหมดนี้เป็นหลักการสำคัญของการถือศีลกินเจ เพื่อเสริมสร้างบุญกุศลและความสงบสุขค่ะ
ห้ามกินอาหารที่มีรสจัด
อีกข้อห้ามหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจคือการงดบริโภคอาหารที่มีรสจัดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดก็ตาม เนื่องจากอาหารที่มีรสจัดเหล่านี้อาจไปกระตุ้นต่อมต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้จิตใจไม่สงบ ไม่สอดคล้องกับหลักการถือศีลกินเจที่เน้นการฝึกจิตใจให้สงบและมีสมาธิ การงดอาหารรสจัดจึงช่วยให้การปฏิบัติตามศีลเจเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์และได้รับประโยชน์สูงสุดค่ะ
ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไม่ได้ถือศีลกินเจ
อีกหนึ่งข้อห้ามที่สำคัญในช่วงเทศกาลกินเจคือการหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ปรุงโดยผู้ที่ไม่ได้ถือศีลกินเจค่ะ ข้อนี้มีความสำคัญมากเพราะอาหารที่ปรุงโดยคนที่ไม่ได้ถือศีลอาจมีพลังงานหรือจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้ไม่เหมาะสมกับหลักการของการถือศีลกินเจที่เน้นการรักษาความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ
เพราะเหตุนี้ คนที่ถือศีลกินเจมักจะไปอยู่รวมกันในสถานที่ที่มีผู้ถือศีลกินเจรวมตัวกันอยู่ เช่น โรงทานหรือศาลเจ้าที่จัดงานกินเจ เพราะผู้ที่ทำหน้าที่ปรุงอาหารในสถานที่เหล่านี้จะถือศีลด้วย ทำให้อาหารทุกมื้อที่ได้รับการปรุงออกมามีความบริสุทธิ์ และสอดคล้องกับหลักการของการถือศีลกินเจอย่างแท้จริงค่ะ